วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

10 อันดับนิสัย และพฤติกรรมไม่ดีของเพื่อน


10 อันดับนิสัย และพฤติกรรมไม่ดีของเพื่อน
“เพื่อนแบบไหนที่ถูกโหวตว่าหลีกให้ไกลเป็นดีที่สุด”

อันดับ 1 ขอแบนเพื่อนขี้จุ๊ 30 %
ย้อนกลับมาคิดถึงตัวเอง เราก็คงไม่อยากถูกเพื่อนโกหกเหมือนกัน ถ้าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีผลกระทบกับใครนั้นก็พอปิดหูปิดตาได้ แต่ถ้าโกหกจนเป็นนิสัย โกหกเป็นเรื่องเป็นราว เข้าขั้นหลอกลวงกันเห็นๆ แบบเนี้ย พวกเราลงความเห็นกันว่า “ยี้มั๊กๆ”
อันดับ 2 เม้าธ์และเมี้ยน 20 %
ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง เรื่องจริงไม่จริงก็เอาไปพูดไปเมี้ยนซะจนเสียหาย ถ้าต้องคบกันแบบระแวงจะถูกแทงข้างหลังตลอดเวลาแบบนี้ ลดระดับเป็นแค่คนเคยรู้จักก็พอมั้ง
อันดับ 3 เลิกอวดซะทีเถอะ! 13 %
โอ๊ะ โอ๋ เรารู้ว่าเพื่อนมีเรื่องดีๆ ในชีวิตก็อยากจะเล่าอยากจะบอกให้เพื่อนได้รับรู้ แต่เราก็ไม่ได้อยากรู้ไปซะทุกเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรวยเวอร์ๆ หรือเป็นผู้หยั่งรู้จนออกหน้าออกตา เห็นมากๆ มันก็ “…ยี้ หมั่นไส้” เหมือนกันนะ
อันดับ 4 มาก๊อปปี้กันทำไม? 10 %
ก็จำได้ว่าเราไม่เคยมีพี่น้องฝาแฝด แต่ทำไมเวลาเจอยัยนี่ทีไร เหมือนมีแฝดขึ้นมาซะได้ มันน่ายี้เพราะคนอื่นก็ไม่รู้ว่าใครเลียนแบบใครกันแน่ ถ้าบังเอิญเหมือนกันบ้างยังพอรับได้ แต่ถ้าตั้งใจเจริญรอยตามขนาดนี้มันหลอนมากกว่าน่ารักนะเพื่อน
อันดับ 5 ไม่งอนสักเรื่องได้มั้ย 8 %
ทั้งยี้ทั้งเอือมเมื่อโดนเพื่อนขี้งอน งอนวันละ 3 เวลา และถ้าเป็นหนักๆ ถึงขั้นว่า งอนก็ง่าย ง้อก็ยาก ถามก็ไม่พูด แบบนี้ไม่ว่าใครก็พากันยี้อย่างแน่นอน
อันดับ 6 เค็มชะมัด 7%
ถ้าขอยืมไอพอดแล้วเพื่อนปฏิเสธอันนี้ไม่จัดว่าขี้เหนียว แต่ถ้าลิควิดบนโต๊ะน่ะ “ขอยืมหน่อยสิ” เพื่อนหันมามองด้วยสีหน้าวีนๆ แล้วพูดว่า “ทำไมไม่ซื้อใช้เองบ้าง” ยี้ อะไรจะงกขนาดน้านนน
อันดับ 7 ปากเสีย! 5%
เพื่อนรับได้ ถ้าเพื่อนจะกัดจะแขวะกันพอหอมปากหอมคอ แต่ถ้าสิ่งที่พ่นออกมาดันทำให้เราถึงกับเสียเซลฟ์ หรือเสียหน้าต่อสาธารณชน อย่างเช่น เอาปมด้อยเพื่อนมาล้อ เอาเรื่องหน้าแตกเพื่อนมาขาย แบบนี้คงทำไม่รู้ไม่ชี้ไม่ลง
อันดับ 8 ขี้กลัวหัวหด 4%
ชวนไปทะเลก็กลัวเรือล่ม ชวนไปปีนเขาก็กลัวหลงป่า ชวนไปห้างเห็นว่ามีข่าววางระเบิดก็ไม่ไป อยากให้ไปลองชิมอาหารร้านใหม่ก็กลัวท้องเสีย เฮ้อ เป็นขนาดนี้ฉันก็กลัวเธอเหมือนกันนะเนี่ย (กลัวว่าเธอจะเป็นโรควิตกจริตเข้าสักวัน)
อันดับ 9 ยืมจั๊ง… 2%
ขอย้ำว่ายี้มากๆ ถ้าเจอคนประเภทยืมมันทุกอย่างเท่าที่จะยืมได้ ไล่กันตั้งแต่เงิน ของใช้ส่วนตัว ของที่ไม่มีใครเขายืมกัน และจะยี้ยกกำลังสอง ถ้ายืมถี่ๆ เป็นกิจวัตร จนบางทีเราต้องแอบสงสัยว่า ชีวิตนี้ไม่คิดจะมีสมบัติส่วนตัวเป็นของตัวเองสักชิ้นเลยเหรอ???
อันดับ 10 บ่นเป็นหมีกินผึ้ง 1%
ก็ถ้าคุณบ่นทุกอย่างที่รู้สึกขัดใจ บ่นในสิ่งที่เราเองก็แก้ไขให้ไม่ได้ เรื่องผ่านไปแล้วก็ยังบ่นไม่เลิก ระวังเหอะ ทำเพื่อนยี้หนักๆ เข้า เพื่อนหนีหายหมดไม่รู้ด้วย

Cr. http://board.eduzones.com

วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

อากาศร้อน..กินอย่างไร..ไม่ให้ร้อน




    หน้าร้อนปีนี้ มาเยือนเร็วกว่าที่เคยนะคะ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้หลายคนเกิดอาการเบื่ออาหาร อากาศร้อนยังทำให้อารมณ์เสีย หงุดหงิดได้ง่ายอีกด้วย การเลือกรับประทานอาหารให้ดี นอกจากจะช่วยคลายร้อนแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์เย็นขึ้นได้อีกด้วย

    หลายคนใช้วิธีดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ หรือรับประทานไอศกรีม ซึ่งจะช่วยแก้กระหายคลายร้อนได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่จะไม่ช่วยให้ร่างกายเย็นลงจากสภาพอากาศร้อนรอบๆ ตัวได้ ทางที่ดีควรอาบน้ำให้เย็นชื่นใจหรือรับประทานอาหารที่ช่วยให้ร่างกายระบายเหงื่อได้โดยตรง
     อาหารประเภทเนื้อสัตว์และไขมัน เป็นอาหารที่ต้องใช้พลังงานในการย่อยและการนำไปใช้สูงกว่าผักและผลไม้ การที่ทางเดินอาหารทำงานหนัก จะเกิดความร้อนขึ้นในร่างกาย อาหารประเภทเนื้อและไขมัน รวมถึงอาหารทอด จึงเป็นอาหารที่รับประทานแล้วจะเกิดอาการแน่นท้อง อึดอัด ย่อยยาก ทำให้รู้สึกร้อนมากขึ้น ไม่ควรรับประทานมากในหน้าร้อน

    ส่วนอาหารที่ไม่สร้างความร้อนเพิ่มขึ้น คือ ผักและผลไม้ที่ไม่มีแป้งมาก ดังนั้น จึงควรเน้นรับประทานผักและผลไม้เป็นหลักมากกว่าอาหารจำพวกแป้งและเนื้อสัตว์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้พลังงานมากเกินความจำเป็นหากรับประทานมากเกินไป

    พืชผักที่เหมาะจะรับประทานในหน้าร้อน ยกตัวอย่างเช่น
     - มะระ เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย แก้ร้อนใน
     - ฟักเขียว มีฤทธิ์เย็น คนจีนนิยมทำเป็นยาถอนพิษ ขับร้อนใน
     - ผักกาดขาว ช่วยแก้อาการร้อนในได้
     - ปวยเล้ง เป็นยาเย็น ช่วยขับร้อน แก้กระหาย
     - ถั่วเขียว มีฤทธิ์ขับร้อนใน แก้กระหาย

    นอกจากนี้ เครื่องเทศ ซึ่งมีสรรพคุณเป็นทั้งอาหารและเป็นยา ก็ยังช่วยคลายร้อนได้โดยอาศัยความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ การกินเผ็ดทำให้มีเหงื่อออก เป็นการระบายความร้อนออกจากร่างกายได้ดีวิธีหนึ่งซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย หลายประเทศในแถบร้อนจึงรับประทานอาหารรสเผ็ด เช่น แกงเผ็ด ผัดเผ็ดต่างๆ

    ควรแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ รับประทานทีละน้อย แต่รับประทานบ่อยๆ เมนูที่นอกจากจะกินอร่อย ได้ประโยชน์ และยังช่วยคลายร้อนได้ ได้แก่ แกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ ต้มโคล้ง ยำต่างๆ น้ำพริกผักจิ้ม ก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ส่วนของหวานก็ได้แก่ น้ำแข็งใส เฉาก๊วย ผลไม้ลอยแก้ว เลือกที่ไม่ใส่กะทิ

    อากาศร้อนๆ คงไม่มีใครอยากดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ กันเท่าไรนัก แต่การดื่มเครื่องดื่มร้อน อย่างเช่น ชาร้อน จะทำให้เหงื่อออก ซึ่งเมื่อเหงื่อระเหย จะทำให้เกิดความเย็น แต่ก็ไม่ควรดื่มมากเกินไป เพราะเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ จะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำไปอย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ ยังมีน้ำสมุนไพรที่มีสรรพคุณคลายร้อน แก้ร้อนใน กระหายน้ำ เช่น     - ใบบัวบก แตงโม ใบเตย ใบสะระแหน่ ช่วยดับกระหายและคลายความร้อนในร่างกาย
     - น้ำตะไคร้ ช่วยขับเหงื่อ
     - น้ำกระเจี๊ยบ ช่วยรักษาอาการร้อนในภายในช่องปาก
     - น้ำมะนาว ช่วยให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า และขับเสมหะ
     - น้ำมะพร้าว ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย
     - น้ำมะตูม เป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มในหน้าร้อนมาแต่โบราณ เพราะนอกจากจะมีกลิ่นหอมชื่นใจ ช่วยแก้กระหายได้แล้ว ยังมีสรรพคุณในการทำลายเชื้อแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้เกิดโรคท้องร่วง
     - น้ำยาอุทัย เหยาะใส่น้ำเย็น ดื่มแล้วชื่นใจ มีสรรพคุณเช่นเดียวกับน้ำมะตูม

     นอกจากนี้ ยังมีสมุนไพรอีกหลายชนิดที่ช่วยย่อยอาหาร ขับลม แก้อาการแน่น จุก เสียด ได้อีกด้วย หากไม่ชอบน้ำสมุนไพร อาจเปลี่ยนเป็นน้ำผลไม้คั้นสดๆ ไม่ใส่น้ำตาลและเกลือ หรือใส่แต่น้อย ก็จะช่วยแก้กระหายคลายร้อนได้เช่นกัน

     สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องทำงานท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง ควรดื่มน้ำให้ได้ชั่วโมงละ 1 ลิตร หรือประมาณ 4-6 แก้ว แม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำก็ตาม แต่อย่าดื่มมากไปจนกระทั่งเกิดอาการจุก และควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้องอย่างน้อย 1-2 แก้ว เมื่อต้องออกจากบ้านในวันที่อากาศร้อนจัด

Cr.http://women.thaiza.com/detail_144902.html

10 สุดยอดที่เที่ยว


อันดับ 10 ปาลิโอ เขาใหญ่
เปิดอ่าน: 38,969 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
มาเริ่มต้นลุ้นระทึกกันในอันกับ 10 ก่อน กับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตใจกลางเขาใหญ่ ที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันอย่างหนาแน่นโดยเฉพาะในวันหยุดสุดสัปดาห์ ปาลิโอ เขาใหญ่ แหล่งชอปปิ้งที่จำลองบรรยากาศในเมืองอิตาลีด้วยสีสันสดใส กับร้านรวงเก๋ๆ เกือบ 120 ร้าน บนพื้นที่กว่า 7 ไร่ ให้เดินชอปปิ้งกันจุใจ มีสินค้าให้เลือกมากมายทั้งของแต่งบ้าน เครื่องประดับ เสื้อผ้า เบเกอรี ร้านไอศกรีม ฯลฯ ซึ่งทุกร้านเขาได้คัดสรรมาเป็นพิเศษให้เข้ากับบรรยากาศเมืองจำลองนี้โดยเฉพาะ ก่อนกลับอย่าลืมแชะภาพกับโลเกชั่นสวยๆ และรูปลานน้ำพุสุดตระการตา ที่ใครมาก็ต้องถ่ายภาพเป็นที่ระลึก วันอาทิตย์ -พฤหัสบดี เปิดเวลา 08.00 - 19.00 น. วันศุกร์- เสาร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 08.00 - 21.00 น. คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 9 หาดบ้านกรูด อ. สะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ 
ความฮอต: 39,704 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
ยังเป็นชายทะเลยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจในอันดับ 9 ประจำปี 2554 หาดบ้านกรูด เป็นชายหาดที่สวยงามด้วยทรายขาวนวล ตา มีลักษณะโค้งเรียวเช่นพระจันทร์เสี้ยว น้ำทะเลยังคงสีฟ้าครามสดใสสะอาด ทิวทัศน์บริเวณหาดยังสวยงามไปด้วยทิวสนและสวนมะพร้าวที่เรียงรายตลอดถนนเลียบหาด ซึ่งจะมีที่จอดรถ ศาลานั่งเล่น เลาะเลียบตลอดแนวชายหาด อีกทั้งยังมีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวด้วยนอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปชม พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ริมหาดบ้านกรูด ซึ่งจัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงครองราชย์สิริราชสมบัติครบ 50 ปี ที่อยู่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย ลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 8 ตลาดน้ำบางน้อย จ.สมุทรสงคราม
ความฮอต: 44,986 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
กระแสความฮอตของตลาดน้ำในปีนี้ยังมาแรงสม่ำเสมอ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่มีผู้ชมเข้ามาคลิกอ่านมากในSanook! Travel มากที่สุดเป็นอันดับ 8 นั่นคือ ตลาดน้ำบางน้อย จ. สมุทรสงคราม 
ในอดีตนัดที่คลองบางน้อยเคยเป็นนัดที่คึกคักมาก พ่อค้าแม่ค้าจะมาจองที่จอดเรือกันตั้งแค่คืนก่อนวันนัด คนซื้อก็เริ่มพายเรือออกมาเลือกของกันอย่างคึกคักเช่นเดียวกัน แม้วันนี้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปกว่าร้อยปี ตลาดน้ำบางน้อยจะเงียบเหงาซบเซาลงไปบ้าง แต่ด้วยความคิดถึงและโหยหาอดีตของผู้คนยุคนี้ ตลาดน้ำบางน้อยจึงฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับมีการปรับปรุงบ้านเรือ เปิดร้านรวงให้นักท่องเที่ยวไปเดินชมบรรยากาศเก่าๆ ของบ้านเรือน แวะซื้อสินค้าและชิมอาหารอร่อยๆ ในชุมชน รวมไปถึงชาวบ้านชาวสวน นำสินค้าเกษตรของท้องถิ่นมาวางขาย ให้เลือกซื้อเลือกหากันอย่างละลานตามีเวลาแวะไปเที่ยวกันได้นะครับ เปิดทุกวัน แต่วันเสาร์-อาทิตย์ บรรยากาศจะคึกคักที่สุด คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 7 ตลาดน้ำปากช่อง อ. ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ความฮอต: 46,101 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
มาแรงตามกันมาติดๆ จนชาว Sanook! Travel คลิกอ่านเป็นอันดับ 7 ตลาดน้ำปากช่อง อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ใน อ. ปากช่อง จ. นครราชสีมา ที่อยากให้คุณได้ไปลองสัมผัส บรรยากาศตลาดน้ำรายรอบด้วยขุนเขา อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพียงแค่นิดเดียว ภายในตลาดแบ่งออกเป็นโซนของอาหาร ผักผลไม้ สินค้าโอทอปฝีมือดี ใครอยากหาของกินอร่อยๆ หรือ ของฝากติดไม้ติดมือสามารถแวะไปเดินเที่ยวได้ หรือจะสนุกกับกิจกรรมต่างๆ เช่น ขี่ข้างเที่ยวตลาด พายเรือชมตลาดน้ำ ก็ไม่น่าพลาดตลาดน้ำปากช่อง เดินทางไปง่ายๆเพียงไม่กี่ชั่วโมง คุณจะได้ทั้งความสนุก อิ่มอร่อย พ่วงด้วยข้าวของให้ช้อปปิ้งกลับบ้าน คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 6 ตลาดร่มหุบ จ.สมุทรสงคราม
ความฮอต: 46,169 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
คงเป็นเพราะเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครของตลาดแห่งนี้ จึงทำให้ตลาดร่มหุบโดนใจชาว Sanook! Travel คลิกอ่านเป็นอันดับ 7 ตลาดร่มหุบ หรือเรียกอีกชื่อว่า ตลาดแม่กลอง แต่เดิมชาวบ้านจะเรียกกันว่า ตลาดเสี่ยงตาย เพราะเป็นตลาดที่ติดอยู่กับสถานีรถไฟแม่กลอง และวางสินค้าบนรางรถไฟ เมื่อรถไฟผ่านมา พ่อค้าแม่ค้าจะรีบหุบร่มกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อตลาดแห่งนี้นี่เอง และเมื่อมาถึงตลาดร่มหุบก็พลาดไม่ได้กับการซื้อปลาทู หน้างอ คอหัก สุดยอดปลาทูแม่กลอง เนื้อแน่น รสชาติอร่อยกว่าที่ไหนๆ อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อผักผลไม้หลากหลายชนิด ขนมหวานของไทยชนิดต่างๆ ปลาสด ปลาแห้ง ปู หมึก กุ้ง หอยดองติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 5 จ. เชียงใหม่
ความฮอต: 51,944 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
ติดอยู่ในลิสต์สถานที่ท่องในดวงใจของใครๆ หลายคนเป็นประจำทุกปี สำหรับ เชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวสุดฮอตในภาคเหนือ และมีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย เที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวประมาณปลายเดือนตุลาคมถึงเดือน กุมภาพันธ์ ตามยอดดอยต่างๆ อากาศหนาวเย็น ท้องฟ้าแจ่มใสตัดกับสีของดอกไม้เมืองหนาวนานาพันธุ์ หรือจะพักผ่อนในช่วงหน้าร้อน หรือหน้าฝนก็ได้อารมณ์ชิลล์ไปอีกแบบ มีโอกาสแวะไปเที่ยวกันได้นะ แล้วคุณจะติดใจจนหลงรักเชียงใหม่แบบไม่รู้ตัว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 4 หัวหิน-ปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์
ความฮอต: 55,003 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
ในบรรดาเมืองชายทะเลทั้งหลายนั้น 'หัวหิน' ยังคงครองความเป็นหนึ่งในใจหลายคนเสมอ ไม่เว้นแม้แต่ชาวSanook! Travel แม้วันคืนจะผ่านไปแต่เมืองตากอากาศสุดฮิตแห่งนี้ก็ยังได้รับความนิยมอย่างสูง เรื่อยเลาะลงไปจนถึงชายหาด 'ปราณบุรี' ที่เงียบสงบ ก็ถือเป็นจุดหมายพักผ่อนของครอบครัวแห่งใหม่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ จนเกินไป รวมทั้งมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจมากมาย ที่กิน ที่พัก มีหลากหลายให้เลือกได้ตามใจชอบ แล้วอย่างนี้คงไม่มีใครปฏิเสธได้ลงว่ามนต์เสน่ห์ของหัวหินยังต้องใจใครๆ เสมอ คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 3 อ.มวกเหล็ก จ. สระบุรี
ความฮอต: 56,123 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)

เขยิบเข้าใกล้เรื่อยๆ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของชาว Sanook! Travel ในอันดับ 3 ต้องยกให้แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ แค่ปลายจมูก อำเภอมวกเหล็ก จ. สระบุรี ที่เดินทางไปก็ง่าย แค่ชั่วโมงกว่าๆ ก็สามารถสัมผัสถึงความสวยงามของธรรมชาติและผืนป่าที่โอบล้อมด้วยขุนเขา พร้อมแหล่งท่องเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกมวกเหล็ก ไร่องุ่นที่เปิดให้เที่ยวชมและไปสัมลมหนาว สุดสัปดาห์นี้หากใครไม่อยากเดินทางไปเที่ยวไหนไกลๆ มวกเหล็ก เปิดประตูต้อนรับรอเพื่อนๆ ทุกคนไปเยือนแว้ว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 2 ตลาดน้ำตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
ความฮอต: 62,368 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)

เรียกว่ามาแรงจริงๆ สำหรับแหล่งรวมของกินสุดดอร่อย ตลาดน้ำตลิ่งชัน อยู่บริเวณริมฝั่ง "คลองบางขุนศรี" หรือคนทั่วไปมักเรียกว่า "คลองชักพระ" ที่ยังคงบรรยากาศ และวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำ ชาวบ้าน วัด บ้านทรงไทย ทั้งแบบเก่า และ แบบประยุกต์ ร้านค้า เรือขายของ สองฝั่งแวดล้อมด้วยสวนกล้วยไม้ สวนผักและผลไม้พื้นบ้าน อาทิ กระท้อนห่อ ขนุน มะปรางไข่ มะม่วง เป็นต้น ตลาดน้ำตลิ่งชัน เป็นตลาดกึ่งชนบท ผสมผสานระหว่างชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติ ตลาดมีเฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ เท่านั้น โดยประมาณ 07.00 น. พ่อค้า แม่ค้า ซึ่งก็คือ ชาวสวนในพื้นที่จะเริ่มนำผลผลิตจากสวน ซึ่งมีทั้งพันธุ์ไม้ ผักสด ผลไม้ ปลา และสัตว์น้ำต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนตลาดสดทั่วไป เพียงแต่ผลผลิตเหล่านี้ จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล และวิถีชีวิตชาวสวน คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

อันดับ 1 ทะเลใกล้กรุง
ความฮอต: 66,356 เพจวิว (คลิกอ่านต่อ)
ยังคงติดลิสต์อับดับ 1 แหล่งท่องเที่ยวในดวงใจของนักเดินทางเป็นประจำทุกปี สำหรับทะเลสวยๆ ในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นทะเลในจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันอย่างกระบี่ ภูเก็ต พังงา รวมไปถึงหมู่เกาะต่างๆ และภาคใต้ฝั่งตะวันออกอย่างสมุย ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปพักผ่อนกันทั้งปีอย่างไม่ขาดสาย หรือทะเลภาคตะวันออก ที่โดนใจคนรักทะเล แต่มีเวลาน้อย ก็สามารถไปได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ทั้งเกาะล้าน เกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก เกาะเสม็ด รวมไปหาดต่างๆ ทั้งหาดพัทยา หาดบางแสน หาดจ้าวหลาวก็งดงาดไม่แพ้ทะเลใต้ หรือจะมาพักผ่อนริมทะเลสุดคลาสสิกในจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ก็ยังเป็นจุดหมายที่ดี และเดินทางไม่ลำบาก เดินทางไปเช้าเย็นกลับก็ทำได้ไม่ยาก แต่ไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกล การเดินทางไปเที่ยวทะเล ก็ช่วยผ่อนคลายจิตใจและเติมความสุขให้กับเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว คลิกเพื่อชมภาพบรรยากาศ

Cr. http://travel.sanook.com

พักสมองจากการอ่านหนังสือมาดูหนังสั้นกันนะ

                                                                              1/3

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เทคนิคการจำ..ฝึกได้ง่าย ๆ



UploadImage


เทคนิคการจำ..ฝึกได้ง่าย ๆ

รู้ไหมว่า...วัน ๆ หนึ่ง เราต้องใช้สมองจดจำอะไรบ้าง...

จำศัพท์ภาษาอังกฤษ จำ tense ตารางธาตุ ประวัติศาสตร์ อักษรสูง กลาง ต่ำ ชื่อเพื่อน หน้าเพื่อน จำเนื้อเพลง วันเกิดพ่อแม่พี่น้อง เบอร์โทรศัพท์ และจำ จำ จำ อีกหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะจำอะไรที่เป็นวิชาการ มันช่างจำได้ยากเย็นเต็มที ถึงแม้จะมีคำกล่าวว่า "การเรียนด้วยความเข้าใจนั้นดีที่สุด" แต่จะมีใครกล้าปฏิเสธมั๊ยล่ะว่าเราเรียนได้โดยไม่ต้องใช้การท่องจำ...

เทคนิคแรก  โยงสิ่งที่ต้องจำไปหาสิ่งที่จำง่ายและติดตากว่า
เช่น ภาษาอังกฤษคำว่า "sue" แปลว่าฟ้องร้อง การออกเสียงคำว่า "sue" คล้ายกับคำว่า "สู้" ของไทย แต่การสู้ในที่นี้ เราต้องสู้กันในศาล เพราะฉะนั้นก็หมายความว่าฟ้องร้องนั่นเอง (สำหรับการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ ขอแนะนำเพิ่มเติมว่าควรจะท่องกลุ่มคำที่มีความหมายเหมือนกัน จะได้จำไปคราวเดียว ไม่ต้องท่องหลายรอบ เช่น purpose-goal-aim-intention-objective)

เทคนิคที่สอง  ใส่ทำนองร้องเป็นเพลง
ถ้าอยากจะจำอะไรสักอย่างหนึ่งยาว ๆ ลองใส่ทำนองเข้าไปแล้วลองร้องออกมา นอกจากจะสนุกสนานล้ว อาจจะจำได้ดีขึ้นด้วย แต่จะไพเราะเสนาะหูขนาดไหน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถเฉพาะตัว

เทคนิคที่สาม  วิธีจำโดยสังเกตตัวอักษรที่เหมือนกัน
ใช้ได้ผลดีกับวิชาภาษาไทย เช่น คำนวน ต้องเขียนว่า คำนวณ ใช้ "ณ" เหมือนคำว่า คณิตศาสตร์ หรือ เข้าฌาน สะกดด้วย "น" เพราะเป็นการนั่งแบบ "นิ่ง ๆ"

เทคนิคที่สี่  ประโยคเด็ดช่วยจำ
แต่งประโยคหรือเรียบเรียงเรื่องที่ต้องจำเป็นข้อความสั้น ๆ และถ้าสามารถ อาจแต่งให้คล้องจองกัน จะช่วยให้จำได้ง่ายยิ่งขึ้น เช่น ประโยคยอดฮิตที่ว่า "ไก่ จิก เด็ก ตาย บน ปาก โอ่ง" ทำให้พวกเราจำอักษรกลางได้อย่างง่ายดาย

เทคนิคที่ห้า  จำเป็นรูปภาพ
สมองคนเราจำรูปได้ดีกว่าข้อความ ดังนั้นพวกสูตรคณิตศาสตร์ต่าง ๆ ลองเขียนเป็นตัวใหญ่ ๆ ทำให้โดดเด่นมีสีสัน แปะไว้ข้างฝาบ้าน มองทุกวัน หลาย ๆวัน เราจะจำภาพหรือสูตรนั้นได้โดยอัตโนมัติ ที่สำคัญอย่าลืมมองเจ้าสิ่งที่แปะบ่อย ๆ ด้วย

เทคนิคการจำก็เป็นความสามารถเฉพาะตัวเหมือนกัน ต้องมีการฝึกฝนและพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์ การจำเรื่องยาก ๆ อาจต้องใช้หลายเทคนิคหรือเทคนิคขั้นสูงต่อไป

Cr. http://blog.eduzones.com/ractrang/78606

"หลักข้อคิดในการทำงาน" ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิตกับงาน

วิว กับ หลักข้อคิดในการทำงาน"หลักข้อคิดในการทำงาน" ข้อคิดดี ๆ ในการใช้ชีวิตกับงาน

ข้อคิดในการทำงาน : ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรก็แล้วแต่ การที่เราจะประสบ ความสำเร็จในหน้าที่การงาน นอกจากจะมีความสามารถอย่างแท้จริงแล้วยังต้องประกอบด้วย มุมมองความคิดที่ดีพอ เพราะในการทำงานเราต้องเจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะร้ายหรือดี ถ้าตัวเราไม่มีทัษณะคติที่ดี ก็เป็นการยากที่เราจะเดินผ่านมันไปได้


ข้อคิดในการทำงาน

1. จงอย่ากังวล

การที่เรามีความกังวลใจในการทำงานนั้นย่อมเป็นการลดคุณภาพของการทำงานและการคิดค้นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวอย่างแน่นอน

2. อย่างปล่อยให้ความกลัวครอบครองชีวิตคุณ

อย่าปล่อยให้ความกลัว มาทำให้ความกล้าที่จะคิดและแสดงออกในการทำงาน ปิดกั้นความคิดดี ๆ ของคุณ

3. อย่าปล่อยให้ความโกรธเปลี่ยนตัวตนของคุณ

ขณะที่คุณกำลังโกรธ เสมือนคุณกำลังปิดตาตัวเองแล้วเดินไปข้างหน้า คุณอาจจะไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร แต่คนรอบข้างคุณทุกคนก็เห็นมัน

4. อย่าเก็บปัญหาไว้ที่บ้านของคุณ

แม้คุณจะทำงานหนัก และมุ่งมั่นเท่าไร แต่การเอาความเครียจจากงานกลับมาคิดที่บ้าน ย่อมทำร้ายตัวคุณ และ คุณภาพงานที่ได้ก็จะแย่ลง

5. ปัญหาที่เจอ คือ ข้อสอบของชีวิต

ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรปัญหาและอุปสักย่อมมีด้วยกันทั้งนั้น วันและเวลาที่ผ่านไปจะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนเก่งและเข้มแข็งขึ้น

6. อย่าแบกชีวิตของคนอื่นไว้บนบ่าของตัวเอง

คุณสามารถช่วยใครก็ได้เพราะนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่จงอย่าเอาปัญหาและความทุกข์ของเขามาไว้บนบ่าของตัวเอง ไม่มีใครช่วยใครแก้ปัญหาได้นอกจากตัวเขาเอง

7. เริ่มต้นเป็นผู้รับ และ ผู้ให้ที่ดี

ในการทำงานนั้นเราไม่ใช่แค่ไปทำงานแต่เพียงอย่างเดียว แต่เรายังต้องไปทำความรู้จักกับสังคม การเป็นผู้ให้ และ ผู้รับที่ดีจะทำให้ใคร ๆ รักและเคารพเราเสมอ

Cr.http://www.n3k.in.th

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ก่อนวาเลนไทน์......มารู้ความหมายของดอกไม้กันนะค่ะ


รู้ความหมายของดอกไม้ ก่อนเอาไปใช้

          คุณรู้หรือไม่ว่าดอกไม้แทบทุกชนิดมีค่ามีความหมายในตัวเอง เราจึงได้นำความหมายดีๆ ของดอกไม้ที่นิยมมอบให้กัน มาฝาก ไม่แน่นะเราอาจจะได้ไอเดียเก๋ๆ หาดอกไม้ที่ถูกใจคู่รัก และมีความหมายในความรักของคุณและเขาก็ได้ เพราะความในใจบางอย่างที่แฝงมากับดอกไม้หนึ่งช่อที่คุณจะมอบให้กับคนพิเศษ ซึ่งแต่ละดอกในหนึ่งช่อดอกไม้นั้น หากคุณตั้งใจที่จะเลือกสรรเพื่อสื่อความในใจทั้งหมดที่มีอยู่ ดอกไม้แต่ละดอกอาจสื่อได้ดีกว่าคำพูดล้านคำ หรือคำพูดบางคำที่คุณอยากจะบอกแต่ยากที่จะพูดให้ดอกไม้บอกแทนก็ได้…
ความหมายของดอกไม้ชนิดต่างๆ
++ กุหลาบ
          กุหลาบแดงและขาวรวมกัน : ดอกไม้สำหรับสื่อความหมายให้รู้ว่า “สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน”
          กุหลาบสีชมพู : ดอกไม้สำหรับความงดงามและความอ่อนโยน
          กุหลาบสีเหลือง : เป็นดอกไม้ที่บอกเป็นนัยว่า “ขอเป็นชู้ทางใจ” หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง
          กุหลาบสีส้ม : ดอกไม้เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา 
          กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) : แทนคำว่า “เธอช่างสวยเหลือเกิน”
          กุหลาบสีขาว : ดอกไม้สำหรับบอกว่า “ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน”
          กุหลาบตูมที่มีทั้งใบและหนาม : เป็นดอกไม้ที่บอกให้รู้ว่า “แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ”
          กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด
          กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น
          กุหลาบตูมสีแดง : ดอกไม้ที่แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา “รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก”
          กุหลาบตูมสีขาว : ดอกไม้ที่แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก
          กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก : เป็นดอกไม้ที่บอกว่า “นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้”
          กุหลาบบานสีแดง : ดอกไม้สำหรับบอกให้รู้ว่า “ฉันรักเธอเข้าแล้ว”
          กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว : เป็นดอกไม้ที่เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า “ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว”
          กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว”
          กุหลาบไร้หนาม : เป็นดอกไม้ที่สื่อให้รู้ว่า “เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ”
          กุหลาบดอกเดียว : ดอกไม้สำหรับแทนความหมาย “รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว”
++ คาร์เนชั่น
          คาร์เนชั่น สีแดง : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “เห็นใจในความรักของฉันที่มีต่อเธอบ้าง” เป็นลูกออดอ้อนให้ใจอ่อน
สีชมพูหวาน : เป็นดอกไม้ที่สื่อว่า “ความรักของฉันกำลังจะผลิบาน โปรดถนอมหัวใจรักฉันด้วย”
คาร์เนชั่นลาย : ดอกไม้สำหรับปฏิเสธใครที่มาตามตื้อ ต้องรีบส่งไปเพราะมันหมายถึง “ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย”
คาร์เนชั่นที่ถูกดึงกลีบดอกออกไป : เป็นดอกไม้สำหรับการปฏิเสธความรักโดยสิ้นเชิง ประมาณว่า “ฉันไม่เคยคิดรักเธอเลย”
 
  
++ ทิวลิป
          ทิวลิป เป็นดอกไม้ที่หมายถึงการตกหลุมรักหัวปักหัวปำ ความรักที่ฉาบฉวยและจึดจางอย่างรวดเร็ว
          ทิวลิปสีแดง : ดอกไม้ที่สื่อว่า “อยากให้โลกรู้ว่าฉันรักเธอ” 
          ทิวลิปสีเหลือง : ดอกไม้ที่สื่อว่า มีหางเสียงเศร้าๆ ว่า “ฉันหมดหวังในรักเธอแล้วหรือไร” 
          ทิวลิปหลากสีในช่อเดียวกัน : ดอกไม้ที่หมายความว่า “ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้”  
++ ดอกลิลลี่
          ดอกลิลลี่ เป็นดอกไม้ที่แทนความรักอ่อนหวาน บริสุทธิ์ อ่อนไหวต่อโลก “เธอเป็นรักแรกของฉันนะ คนดี”
++ ดอกไอวี่
          ดอกไอวี่ เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก แต่ถ้าหนุ่มคนไหนต้องการขอสาวแต่งงานลองส่งดอก ไอวี่แทนใจก็ได้ เพราะอีกนัยหนึ่ง หมายถึงการแต่งงาน  
++ ดอกมะลิ
          ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง และอ่อนโยน มะลิ แทนความหมาย “เธอคือผู้ที่ฉันสุดรักสุดบูชา” หรือ “เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง”
++ กล้วยไม้
          เป็นดอกไม้ที่ไว้บอกภาษารักว่า “ฉันไม่อาจห้ามใจให้คิดถึงเธอได้”  
++ ดอกหญ้า
          คือดอกไม้ที่ใช้สื่อความรักที่เปี่ยมด้วยอิสระ แทนความว่า “ฉันรักเธอ แต่ขอเธออย่าผูกมัดฉันเลยนะคนดี”
++ ดอกบัว
          เป็นดอกไม้แทนความสงบและความบริสุทธิ์ใจ จึงเป็น “รักด้วยความศรัทธาและชื่นชม” 
++ ดอกแกลดิโอลัส
          เป็นดอกไม้ที่สมควรส่งให้สาวที่เข้มแข็ง และมีความมั่นใจ เพราะแทนคำว่า “เธอช่างเป็นสาวมั่นจริงๆนะ” และยังเหมาะที่จะใช้เป็นดอกไม้แสดงความยินดี แทนคำว่า “ยินดีด้วยสำหรับความสำเร็จ ครั้งนี้”
++ ดอกทานตะวัน
          ดอกไม้ที่แทนสัญญลักษณ์ของความเชื่อมั่น ความมั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม ถ้าได้รับดอกทานตะวันเหมือนได้รับสารว่า “แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ” และยังหมายถึง “รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์”
++ แดฟโฟดิล
          เป็นดอกไม้ที่เหมาะสำหรับความรักของเพื่อนแท้ คนรู้ใจ เพราะส่งแดฟโฟดิลเหมือนบอกว่า “น้ำใจไมตรี และความเอื้ออาทรของเธอ สมแลัวกับที่เป็นเพื่อนรักที่แสนดีของฉัน”
++ ดอกซ่อนกลิ่น
          ดอกไม้สำหรับคนที่มีรักซ้อนซ่อนใจ ไม่อาจเปิดเผย “ฉันแอบรักเธออยู่นะ” หรือ “ฉันหยิ่งเกินกว่าจะเอ่ยปากบอกรักกับเธอก่อน”
++ ดอก Lilac
          ดอกไม้สำหรับการส่งให้กับความรักครั้งแรก

Cr. http://women.kapook.com/wedding00144/

วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

มี 20 ข้ออาจทำให้ชีวิตคุณดีขึ้น

๑. กลัวลูกมีเซ็กส์ในวัยเรียน ?
ไม่อยากให้เกิด ต้องเอาปัญญาใส่ในมือลูก
ให้เงินลูกน้อยๆ ให้ความรู้แก่ลูกมากๆ ด่าลูกน้อยๆ ให้คำสอนลูกมากๆ

๒. ไหว้พระขอพรอะไรดี ?
(๑) ขออย่าให้โลภจนหน้ามืด
(๒) ขออย่าให้โกรธจนทำร้ายตัวเอง
(๓) ขออย่าให้หลงจนไม่รู้ดีรู้ชั่ว
(๔) ขออย่าให้ตายในสงคราม ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง

๓. ท้อแท้กับปัญหามากมายทำอย่างไรดี ?
ปลาที่ยังเป็นอยู่ ล้วนเรียนรู้ที่จะว่ายทวนน้ำ
ส่วนปลาตาย มักไหลตามน้ำ
ปัญหาทำให้คนธรรมดาท้อ แต่ทำให้คนมีปัญญาลุกขึ้นมาแก้ไข

๔. ทะเลาะกับแฟนจนไม่มีสมาธิทำงาน ?
งานส่วนงาน แฟนส่วนแฟน
รู้จักแบ่งเวลาให้งาน รู้จักแบ่งเวลาให้แฟน
อย่าเสียงานเพราะแฟน อย่าเสียแฟนเพราะงาน

๕. โกรธ! ถูกเพื่อนนินทา ?
โบราณว่าไม่มีใครเตะหมาที่ตายแล้ว
คุณถูกนินทาแสดงว่าคุณยังมีความหมาย
คุณเป็นคนโชคดี จู่ๆ ก็มีกระจกวิเศษสะท้อนความอัปลักษณ์
ให้เห็นความบกพร่องของตัวเอง

๖. จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กทำอย่างไรดี?
(๑) ถามตัวเองว่าเราดีกับเขาพอหรือยัง
(๒) ระหว่างเรากับกิ๊กมีข้อดีข้อด้อยต่างกันตรงไหน
(๓) ถามแฟนว่าจะเลือกใครก็รีบทำ
ไม่รักฉัน อย่าทำให้ฉันเสียเวลา

๗. โดนเพื่อนร่วมงานแย่งซีนทำอย่างไร?
เขาแย่งจากเราได้เพียงแค่ซีนและภาพลักษณ์เท่านั้น
แต่เขาไม่สามารถแย่งความรู้และความสามารถไปจากเราได้

๘. งานเยอะมากทำอย่างไรดี ?
(๑) รู้ว่างานเยอะต้องรีบทำ
(๒) อย่าดองงานข้ามปีข้ามชาติ
(๓) เรียงลำดับความสำคัญของงาน
สำคัญก่อนให้รีบทำ สำคัญน้อยค่อยทยอยทำ

๙. ทำงานดี มีแต่คนริษยา จะรับมืออย่างไร ?
โบราณว่า ไม้ใหญ่ย่อมเจอขวานคม
คนเด่นต้องมีคนด่า คนมีปัญญาจึงมีคนลองดี
คนทำงานดีจึงมีคนริษยา ปรากฏการณ์เช่นว่านี้
เป็นของธรรมดา ทำงานดีจนมีคนริษยา
ยังดีกว่าทำงานไม่ดี จึงเป็นได้อย่างดีแค่คนที่คอยริษยา

๑๐. ทำงานแทบตาย เงินไม่พอใช้ ทำอย่างไรดี ?
(๑) หางานใหม่
(๒) ลดความต้องการให้น้อยลง อยู่กับความจริงให้มาก
(๓) บริโภคปัจจัยสี่โดยมุ่งประโยชน์ อย่ามุ่งประดับ
(๔) ทำบัญชีรายรับรายจ่าย รับมากกว่าจ่ายจึงนับว่ายอด
จ่ายมากกว่ารับนับว่าแย่

๑๑. ถูกนายด่า อารมณ์เสีย ?
คนที่ด่าคนอื่นสะท้อนว่าระบบข้างใจกำลังพัง
คนอารมณ์เสียเพราะถูกด่า
แสดงว่าระบบของตัวเองก็พังตามไปด้วย

๑๒. ไถ่ชีวิตโคได้บุญมากไหม ?
ถ้าไถ่แล้วโคอยู่รอด คุณได้บุญ
แต่หากไถ่เพื่อทำให้วัดอยู่รอด คุณได้บาป
แทนที่จะไถ่โคกระบือ
คุณควรไถ่ตัวเองให้พ้นจากความโลภ โกรธ หลง ดีกว่า

๑๓. แฟนติดหนังเกาหลี ดูทั้งคืนไม่ยอมนอน ?
ขอให้คิดว่าอย่างน้อยเธอยังนั่งดูอยู่ในบ้าน
ถึงเธอจะติดหนังเกาหลี ก็ยังดีกว่าติดผู้ชายขี้หลีที่อยู่นอกบ้าน

๑๔. ลูกค้าจู้จี้ทำอย่างไรดี?
มีลูกค้าจู้จี้ยังดีกว่าวันทั้งวันไม่มีใครแวะเวียน ผ่านมาเยี่ยมเยียนถึงในร้าน
ลูกค้าจู้จี้ได้ แต่คุณต้องทำให้เขาประทับใจเอาไว้เสมอ

๑๕. ไปงานวันเกิดควรได้อะไร?
(๑) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
(๒) ได้ถามตัวเองว่า เราเกิดมาจากใคร
(๓) ได้ถามตัวเองว่า เรากตัญญูต่อผู้ให้กำเนิดแล้วหรือยัง


๑๖. สวดมนต์บทไหนดี ?

(๑) สวดพุทธคุณเพื่อเตือนว่า จงเป็นผู้ตื่น
(๒) สวดธรรมคุณเพื่อเตือนว่า
จงเว้นสิ่งที่ควรเว้น จงทำสิ่งที่ควรทำ
(๓) สวดสังฆคุณเพื่อเตือนว่า พระอรหันต์ที่แท้ คือพ่อกับแม่ที่อยู่ในบ้านของเรานั่นเอง

๑๗. สามีไม่สนใจธรรมะเลยทำอย่างไรดี ?
(๑) เราควรมีธรรมะให้เขาดู
(๒) เราควรอยู่ให้เขาเห็น
(๓) เราควรสงบเย็นให้เขาได้สัมผัส เนื่องเพราะ หนึ่งการกระทำสำคัญกว่าพันคำพูด

๑๘. โดนขับรถปาดหน้า โมโหมาก ?
(๑) บอกตัวเองว่าโกรธคือโง่ โมโหคือบ้า ด่าคือมาร ระรานคือบาป
(๒) เปลี่ยนการด่าเป็นการแผ่เมตตาให้เขาถึงที่หมายโดยปลอดภัย
(๓) เตือนตนไว้ว่า อย่าขับรถปาดหน้าใคร เพราะอาจมีอันตรายรอบด้าน

๑๙. อยู่ในกลุ่มเพื่อนชอบนินทาจะตีจากดีไหม ?
ท่านพุทธทาสกล่าวว่า คนชอบนินทาคือคนที่ชอบกินของเน่า
ถ้าเราร่วมผสมโรงไปกับเขา แสดงว่าเราเองก็ชอบกินของเน่าไม่เบาเหมือนกัน

๒๐. ทำไมมักเจอสิ่งที่ไม่ชอบใจอยู่เสมอ ?
ผู้รู้บอกว่า ศิลปินอย่าดูหมิ่นศิลปะ กองขยะดูดีๆ ยังมีศิลป์
ดังนั้น ในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ย่อมมีแง่มุมที่คุณชอบ 

****  สุดท้ายลองไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ ***

Cr. http://www.thailandsusu.com